รูปภาพประกอบการปลูกต้นไม้ของฉัน
วันเสาร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2557
สรรพคุณ
สรรพคุณของดอกดาวเรือง
สรรพคุณ
· ดอก น้ำที่กลั่นจากดอกแก้อาการอักเสบของตาและชงแก้ไข้ขับเหงื่อ
แก้พุพอง หรือเอามาต้มเป็นยาแก้โรคหัด แก้ไข้ทรพิษ
หรือถ้ามีอาการปวดฟกช้ำแมลงกัดต่อยให้เอาดอกมาทาถูตรงบริเวณนั้น
· ใบ นำมาตากแห้งแล้วบดเป็นผงใช้เป็นยานัตถุ์หรือกินเป็นอาหาร
แก้โรคต่อมน้ำเหลืองในเด็ก
และถ้าเกิดอาการท้องผูกให้นำใบคั้นเอาน้ำทานซึ่งจะมีรสเผ็ดร้อน
ที่มา: http://www.xn--12ca4dscc8ayd2f.com/
ประโยชน์
ประโยชน์ของดาวเรือง
ประโยชน์ : ใบ เป็นยาเย็น ใช้ทาแผลเน่าเปื่อย ฝีต่าง ๆ น้ำคั้นจากใบใช้หยอด
แก้เจ็บหู ดอก แก้ริดสีดวงทวารเป็นยาฟอกเลือด ขับลม ละลายเสมหะ ไอ หลอดลมอักเสบ
ปรุงกับตับไก่เป็นยาบำรุงสายตา ดอกแห้งบดเป็นผงผสมกับอาหารไก่
ช่วยให้ไข่แดงสีเข้มขึ้น ดอกสดเป็นอาหารและทำดอกไม้ประดิษฐ์
ที่มา: http://www.xn--12ca4dscc8ayd2f.com/
โรคของดาวเรือง
โรคของดาวเรือง
โรคใบจุด
อาการ ใบเริ่มมีอาการใบจุดสีขาวแล้วเนื้อเยื้อตรงกลางแผล จะแห้งและเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่อนหรือสีเนื้อ ใบที่มีแผลหลายแผลจะค่อยๆแห้งร่วงหล่น ทำให้ต้นทรุดโทรม ระบาดในช่วงฤดูฝนและในสภาพอากาศที่มีความชื้นสูง
อาการ ใบเริ่มมีอาการใบจุดสีขาวแล้วเนื้อเยื้อตรงกลางแผล จะแห้งและเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่อนหรือสีเนื้อ ใบที่มีแผลหลายแผลจะค่อยๆแห้งร่วงหล่น ทำให้ต้นทรุดโทรม ระบาดในช่วงฤดูฝนและในสภาพอากาศที่มีความชื้นสูง
โรคดอกเน่า
อาการ โดยดอกที่เกิดโรคจะเน่าเป็นสีน้ำตาล โดยเฉพาะถ้าหากเกิดในระยะที่ดอกกำลังเริ่มเป็นดอกตูมจะทำให้ดอกไม่สามารถบาน ได้ หากเชื้อเข้าทำลายในระยะที่ดอกบานจะพบว่ากลีบดอกจะมีสีน้ำตาลลามเข้าไปทาง โคนกลีบ ทำให้ดอกมีสีน้ำตาลดำ เชื้อเข้าทำลายจากดอกลามสู่ลำต้น ระบาดในช่วงฤดูฝนและในสภาพอากาศที่มีความชื้นสูง
อาการ โดยดอกที่เกิดโรคจะเน่าเป็นสีน้ำตาล โดยเฉพาะถ้าหากเกิดในระยะที่ดอกกำลังเริ่มเป็นดอกตูมจะทำให้ดอกไม่สามารถบาน ได้ หากเชื้อเข้าทำลายในระยะที่ดอกบานจะพบว่ากลีบดอกจะมีสีน้ำตาลลามเข้าไปทาง โคนกลีบ ทำให้ดอกมีสีน้ำตาลดำ เชื้อเข้าทำลายจากดอกลามสู่ลำต้น ระบาดในช่วงฤดูฝนและในสภาพอากาศที่มีความชื้นสูง
โรคเหี่ยวเหลือง
อาการ
เริ่มจากใบดาวเรืองที่อยู่บริเวณโคนต้นแสดงอาการใบเหลือง
แล้วแห้งลามขึ้นมาสู่ส่วนบนจนในที่สุดใบจะเหลืองและแห้งตายไปทั้งต้น
ส่วนของลำต้นจะมีลักษณะแบนลีบและเหี่ยวไปด้วย
ลำต้นบริเวณคอดินหรือเหนือดินเล็กน้อย มักมีสีแดงหรือสีคล้ำกว่าส่วนอื่นท่อน้ำเลี้ยงแห้งเป็นสีน้ำตาล
เชื้อโรคนี้จะเริ่มเข้าทำลายในช่วงหลังจากย้ายปลูก 40-45 วันหลังย้ายปลูกช่วงดาวเรืองเป็นตุ่มตาดอก
ที่มา: http://thongchaloem.makewebeasy.com/
การดูแลรักษา
การดูแลรักษาดาวเรือง
การรดน้ำ ในช่วงเริ่มปลูกจนต้นดาวเรืองมีอายุได้ 7 วัน เกษตรกรควรรดน้ำวันละ 2 ครั้ง ทุก ๆ
เช้าและเย็น และหลังจากนั้นให้ทำการรดน้ำวันละครั้งเฉพาะในตอนเช้าเท่านั้น
และในช่วงดอกดาวเรืองเริ่มบานเกษตรกรจะต้องระมัดระวังอย่าให้น้ำถูกดอกดาวเรืองเป็นอันขาด เพราะจะทำให้ดอกเสียหายและถูกเชื้อโรคเข้าทำลายได้ง่าย
การปลิดยอด หรือที่เรียกกันว่า การเด็ดตุ้ม
หรือการแต่งตุ้มนั่นเอง
ทำเพื่อให้ดาวเรืองแตกพุ่มและจะทำให้ดอกดาวเรืองมีขนาดใหญ่เกษตรกรควรทำเมื่อดาวเรืองมีอายุได้ประมาณ 21-25 วัน ใช้มือซ้ายจับใบคู่บนสุดที่ต้องการเหลือไว้แล้วใช้มือขวาดึงส่วนยอดลงทางด้านข้าง
เพื่อให้ยอดหลุดออกมา
ข้อควรระวังคือเกษตรกรไม่ควรเด็ดยอดเพราะจะทำให้ส่วนตาของยอดเหลือติดอยู่
ซึ่งจะเจริญเป็นดอกในภายหลัง
ทำให้ดอกดาวเรืองบานไม่พร้อมกันและมีดอกดาวเรืองจะมีขนาดเล็ก
การใส่ปุ๋ย เมื่อดาวเรืองมีอายุได้ 15วัน และ 25 วัน เกษตรกรควรใส่ปุ๋ย สูตร 15-15-15 อัตราส่วน 1 ช้อนชาต่อหลุม
และเมื่อดาวเรืองมีอายุได้ 35 วัน และ 45 วัน เกษตรกรควรทำการใส่ปุ๋ยสูตร15-24-12 อัตราส่วน 1 ช้อนชา เช่นกัน โดยใส่ให้ห่างโคนต้นดาวเรืองประมาณ 6 นิ้ว ฝังปุ๋ยลงในดินประมาณครึ่งนิ้ว จากนั้นให้เกษตรกรพรวนดินรอบ ๆ
โคนต้นดาวเรืองและกลบโคนต้นไว้และทำการรดน้ำให้โชก
ที่มา: http://www.xn--12ca4dscc8ayd2f.com/
การปลูกดาวเรือง
การปลูกดาวเรือง
1. ไถเตรียมดิน หว่านปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไป ประมาณ 1 ตัน/ไร่ ยกร่องแปลงปลูกกว้าง 1 เมตร รดน้ำแปลงไว้ล่วงหน้า 1 วัน
2. ขุดหลุมกว้าง 15 เซนติเมตร
แปลงละ 3 แถว ระยะระหว่างแถว 30 เซนติเมตร
ระยะระหว่างต้น 30 เซนติเมตร ใส่ปุ๋ยทริบเบิ้ลซุปเปอร์ฟอสเฟส หรือสูตร15-15-15 ประมาณ 1 ช้อนชา รองก้นหลุม
แล้วเกลี่ยดินข้างหลุมมากลบปุ๋ยเล็กน้อย
เพื่อป้องกันไม่ให้รากดาวเรืองสัมผัสปุ๋ยโดยตรง
3. นำต้นกล้าที่มีอายุ 7-10 วัน ( นับจากวันเพาะเมล็ด ) โดยแยกต้นกล้าให้มีวัสดุเพาะ หรือดินหุ้มติดรากมาด้วย เพื่อป้องกันรากกระทบกระเทือน นำมาปลูกในแต่ละหลุมที่เตรียมไว้
4. หลังจากนั้น
ต้องรดน้ำเช้า-เย็น ประมาณ 7 วัน ซึ่งต้นกล้า จะตั้งตัวได้ดี
แล้วจึงรดน้ำเพียงวันละ 1 ครั้ง ในตอนเช้า
ในช่วงที่ดอกเริ่มบานไม่ควรรดน้ำให้โดนดอกเพื่อป้องกันดอกเป็นโรค
5. เมื่อดาวเรืองอายุ 15 และ 25 วัน ควรใส่ปุ๋ย 15-15-15 ในอัตรา 1 ช้อน : ต้น เมื่ออายุ 35 และ 45 วัน ใส่ปุ๋ยสูตร 12-24-12 ในอัตราเดียวกัน โดยวิธีฝังลงในดินตื้นๆ ประมาณ ½ นิ้ว ห่างโคนต้น 6 นิ้ว แล้วรดน้ำให้ชุ่มทุกครั้งที่ใส่ปุ๋ย
6. ช่วงดาวเรืองอายุ 21-25 วัน ซึ่งเป็นระยะที่ต้นมีใบจริงขนาดใหญ่ ประมาณ 4 คู่ และส่วนยอดมีใบเล็กๆ 1-2 คู่ จะต้องปลิดยอดทิ้งเพื่อให้แตกกิ่งข้าง โดยใช้มือซ้ายจับคู่ใบบนสุดที่จะเหลือไว้ แล้วใช้มือขวาดึงส่วนยอดลงทางด้านข้างจนหลุดออกมา หลังจากนั้น 5-7 วันตาข้างจะเริ่มแตกและเจริญเป็นกิ่งใหม่ ซึ่งจะติดตุ่มดอกทั้งที่ตายอดปลายกิ่งและตาข้าง
7. หลังจากปลูก 40-45 วันในแต่ละกิ่ง เมื่อดอกยอดมีขนาดเท่าเมล็ดข้าวโพดดอกข้างมีขนาดเท่าเมล็ดถั่วเขียว ต้องรีบปลิดดอกข้างออกให้หมดภายใน 2-3 วัน คงเหลือดอกยอดไว้ดอกเดียว เพื่อให้ดอกมีขนาดใหญ่ 8. หลังจากนั้นประมาณ 20 วัน ( อายุ 60-65 วัน ) ก็ตัดดอกไปจำหน่ายได้ ซึ่งจะได้ประมาณ 10-12 ดอก/ต้น
5. เมื่อดาวเรืองอายุ 15 และ 25 วัน ควรใส่ปุ๋ย 15-15-15 ในอัตรา 1 ช้อน : ต้น เมื่ออายุ 35 และ 45 วัน ใส่ปุ๋ยสูตร 12-24-12 ในอัตราเดียวกัน โดยวิธีฝังลงในดินตื้นๆ ประมาณ ½ นิ้ว ห่างโคนต้น 6 นิ้ว แล้วรดน้ำให้ชุ่มทุกครั้งที่ใส่ปุ๋ย
6. ช่วงดาวเรืองอายุ 21-25 วัน ซึ่งเป็นระยะที่ต้นมีใบจริงขนาดใหญ่ ประมาณ 4 คู่ และส่วนยอดมีใบเล็กๆ 1-2 คู่ จะต้องปลิดยอดทิ้งเพื่อให้แตกกิ่งข้าง โดยใช้มือซ้ายจับคู่ใบบนสุดที่จะเหลือไว้ แล้วใช้มือขวาดึงส่วนยอดลงทางด้านข้างจนหลุดออกมา หลังจากนั้น 5-7 วันตาข้างจะเริ่มแตกและเจริญเป็นกิ่งใหม่ ซึ่งจะติดตุ่มดอกทั้งที่ตายอดปลายกิ่งและตาข้าง
7. หลังจากปลูก 40-45 วันในแต่ละกิ่ง เมื่อดอกยอดมีขนาดเท่าเมล็ดข้าวโพดดอกข้างมีขนาดเท่าเมล็ดถั่วเขียว ต้องรีบปลิดดอกข้างออกให้หมดภายใน 2-3 วัน คงเหลือดอกยอดไว้ดอกเดียว เพื่อให้ดอกมีขนาดใหญ่ 8. หลังจากนั้นประมาณ 20 วัน
ที่มา: http://www.vgnew.com/home/FreelanceDetail.aspx?strID=5
วันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2557
การขยายพันธุ์
โดยการใช้เมล็ด
เอาเมล็ดดาวเรียงมาเพาะในกระบะ ซึ่งมีวัสดุเพาะ คือขุยมะพร้าว ทราย ขี้เถ้าแกลบ ปุ๋ยคอก ในอัตราส่วน 1:1:1:1 หรือแปลงเพาะที่มีดินร่วนซุยค่อนข้างละเอียด
คราดดินให้ผิวดินเรียบสม่ำเสมอ ทำร่องบนกระบะเพาะหรือแปลงเพาะให้ลึก ประมาณ 0.5 เซนติเมตร กว้าง 1 เซนติเมตร แต่ละร่องห่างกัน 5 เซนติเมตร หยอดเมล็ดลงร่องห่างกัน 1-2 นิ้ว แล้วกลบแต่ละร่องด้วยวัสดุเพาะ
หรือดินละเอียดเพียงบางๆ รดน้ำด้วยฝักบัวฝอยให้ชุ่ม
แล้วคลุมกระบะเพาะด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ หรือคลุมแปลงเพาะด้วยฟางหรือหญ้าแห้ง ควรรดน้ำวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น เพื่อรักษาความชื้น
เมล็ดดาวเรืองจะงอกภายใน 3-5 วัน เป็นต้นกล้า
ที่มา: ดอกดาวเรือง.blogspot.com/2013/03/blog-post_4724.html
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)